มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 4 ธันวาคม 2561 เรื่อง การมอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรม

แชร์หน้านี้


          คณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ได้พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน ก.พ.ร. คือ การมอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรม

          สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรีเรื่องดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ.ร. ทราบ ตามหนังสือ สลค. ด่วนที่สุด ที่ นร 0505/39715 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2561 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

          คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ลงมติว่า

          1. เห็นชอบในหลักการการมอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรม ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย 

          2. เห็นชอบให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2550 (เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ) ในกรณีการขอจัดตั้งส่วนราชการระดับต่ำกว่ากรม โดยไม่เพิ่มจำนวนกอง หรือจำนวนหน่วยงานของราชการส่วนกลางที่ตั้งในภูมิภาค หรือจำนวนหน่วยงานในต่างประเทศ ทั้งที่ปรากฏในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ หรือตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และยังคงจำนวนกองหรือหน่วยงานในภาพรวมเท่าที่มีอยู่เดิมของส่วนราชการ ให้ดำเนินการตามหลักการเงื่อนไข และขั้นตอนที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ส่วนการกำหนดตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่ต่ำกว่าระดับกรม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ. กำหนด

          3. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. แก้ไขหนังสือสำนักงาน ก.พ.ร. ที่ นร 1200/ว 13 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2550 เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ ให้สอดคล้องกับหลักการมอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรมดังกล่าวต่อไป

          4. ให้สำนักงาน ก.พ. นำข้อเสนอแนะของ ก.พ.ร. และความเห็นของกระทรวงแรงงานเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกำหนดตำแหน่ง และการประเมินคุณภาพของตำแหน่งตามหลักเกณฑ์การประเมินค่างานของตำแหน่ง เสนอต่อ ก.พ. เพื่อพิจารณาทบทวนต่อไป

          5. ให้กระทรวงการต่างประเทศแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารราชการในต่างประเทศ พ.ศ. 2552 เกี่ยวกับการจัดตั้งหรือรวมหน่วยงานในต่างประเทศ กรณีไม่เพิ่มจำนวนหน่วยงานในต่างประเทศ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ 

        สำหรับสาระสำคัญของการมอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรม ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ มีดังนี้ 

          1. หลักการมอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรม

          ก.พ.ร. จะมอบอำนาจให้ส่วนราชการพิจารณาจัดโครงสร้างส่วนราชการระดับต่ำกว่ากรมได้เองภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้

          1) เป็นการจัดโครงสร้าง (rearrange) เพื่อให้การดำเนินภารกิจของส่วนราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เพิ่มจำนวนกองในภาพรวมของส่วนราชการ เช่น การยุบเลิก/ยุบรวมกองเดิม และจัดตั้งกองใหม่ เพื่อรับผิดชอบภารกิจใหม่ ๆ ตามยุทธศาสตร์ นโยบาย และภารกิจที่มีความสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ทั้งนี้ จำนวนกองที่ปรากฏในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการยังคงเท่าเดิม สำหรับภารกิจอื่น ๆ ประกอบด้วย งานยุทธศาสตร์และแผนงาน งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร งานตรวจราชการ งานบริหารทรัพยากรบุคคล งานบริหารการคลัง งานกฎหมาย งานการต่างประเทศ งานพัฒนาบุคลากร และงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ.ร. กำหนด

           2) เป็นการจัดหน่วยงานของราชการส่วนกลางในภูมิภาคใหม่ โดยไม่เพิ่มจำนวนหน่วยงาน เช่น การจัดพื้นที่จังหวัดที่อยู่ในความรับผิดชอบใหม่ รวมถึงการย้ายสถานที่ตั้งของสำนักงานจากจังหวัดหนึ่งไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง ตามการจัดพื้นที่จังหวัดที่อยู่ในความรับผิดชอบใหม่

           3) เป็นการจัดหน่วยงานในต่างประเทศใหม่ โดยไม่เพิ่มจำนวนหน่วยงาน เช่น การย้ายสถานที่ตั้งของสำนักงานจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศประเภทเดียวกัน หรือจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งภายในประเทศเดียวกัน ทั้งนี้ สำนักงานดังกล่าวต้องเป็นสำนักงานตามกฎหมาย/ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

           ทั้งนี้ ก.พ.ร. มีข้อเสนอแนะต่อ ก.พ. เพื่อพิจารณาด้วยว่า ก.พ. อาจพิจารณาให้ตำแหน่งผู้อำนวยการกองของกองเดิมที่ปรับปรุงบทบาทภารกิจคงตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง และให้ตำแหน่งผู้อำนวยการของกองที่จัดตั้งใหม่เป็นตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูงโดยไม่ต้องมีการประเมินคุณภาพงานของตำแหน่งด้วยโปรแกรมการประเมินค่างาน (Jetro) แต่ให้คณะกรรมการกำหนดตำแหน่งระดับสูงของกระทรวงพิจารณาประเมินคุณภาพงานของตำแหน่งโดยการเทียบเคียงความยุ่งยากซับซ้อนของงาน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ. กำหนด 

           สำหรับการแบ่งส่วนราชการภายในกรม กรณีเพิ่มจำนวนกองในภาพรวมของส่วนราชการ เช่น การจัดตั้งกอง การจัดตั้งหน่วยงานส่วนกลางในภูมิภาค การจัดตั้งส่วนราชการส่วนภูมิภาค การจัดตั้งหน่วยงานในต่างประเทศ ขึ้นใหม่ เป็นต้น ให้ส่วนราชการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ

         2. การขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีและการแก้ไขระเบียบและหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง

            เพื่อให้การดำเนินการตามหลักการมอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรมมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และเป็นไปตามเจตนารมณ์ จะต้องขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีและแก้ไขระเบียบและหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

            1) ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2550 เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ กรณีการขอจัดตั้งส่วนราชการระดับต่ำกว่ากรม โดยไม่เพิ่มจำนวนกองในภาพรวมของส่วนราชการ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนการจัดตั้งส่วนราชการระดับต่ำกว่ากรมกรณีการมอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรม และให้สำนักงาน ก.พ.ร. แก้ไขหนังสือที่ นร 1200/ว 13 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2550

            2) ให้สำนักงาน ก.พ. แก้ไขหนังสือที่ นร 1008/ว 2 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกำหนดตำแหน่ง เกี่ยวกับการประเมินคุณภาพงานของตำแหน่งตามหลักเกณฑ์การประเมินค่างานของตำแหน่ง เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการมอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรมในส่วนที่ได้เสนอแนะต่อ ก.พ. ไว้แล้วข้างต้น

            3) ให้กระทรวงการต่างประเทศแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารราชการในต่างประเทศ พ.ศ. 2552 เกี่ยวกับการจัดตั้งหรือรวมหน่วยงานในต่างประเทศ กรณีไม่เพิ่มจำนวนหน่วยงาน เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการมอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรม



ข้อมูลจาก หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และหนังสือสำนักงาน ก.พ.ร. 
นฤมล (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มวิเทศสัมพันธ์และการประชาสัมพันธ์ / จัดทำ