ทีมวิจัยจากธนาคารโลกและคณะ พร้อมด้วยนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสที่มาเก็บข้อมูลจากส่วนราชการ เพื่อเตรียมจัดอันดับความยาก – ง่าย ในประกอบธุรกิจ (Doing Business) ในประเทศไทย

แชร์หน้านี้

         
       เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2562 ณ ทำเนียบรัฐบาล ทีมวิจัยจากธนาคารโลกนำโดย  Ms.Mara K.Warwick , Country Director และคณะ พร้อมด้วยนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เนื่องในโอกาสที่มาเก็บข้อมูลจากส่วนราชการ เพื่อเตรียมจัดอันดับความยาก – ง่าย ในประกอบธุรกิจ (Doing Business) ในประเทศไทย

       ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวไว้ว่า รัฐบาลได้มีความร่วมมือกับธนาคารโลกมายาวนานกว่า 70 ปี และตลอดระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ ได้ให้ความสำคัญ และพัฒนาปรับปรุงขั้นตอน กระบวนการทำงานตามแนวทางที่ธนาคารโลกใช้วัดความยากง่ายในการจัดอันดับ Ease of Doing Business แม้ว่าผลการจัดอันดับจะดีขึ้นมาก แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะทำต่อไปอย่างต่อเนื่องให้ครบถ้วนตามที่ธนาคารโลกใช้วัด 10 ตัวชี้วัดซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย

        อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของประเทศไทยในการปฏิรูปด้านต่างๆ รวมทั้งความสำเร็จของรัฐบาลมาจากความร่วมมือกับธนาคารโลก รัฐบาลยินดีที่จะรับฟังคำแนะนำจากธนาคารโลกว่าเราควรจะปฏิรูปอย่างไร และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอแนะจากธนาคารโลกจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศไทย อันจะส่งผลดีต่อการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย

       นอกจากนี้ นโยบายการปฏิรูปของรัฐบาลมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน รวมทั้งการปฏิรูประบบราชการ
การพัฒนาทรัพยากรบุคลากร โดยเฉพาะการพัฒนาข้าราชการ การปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการค้า การลงทุน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจของประเทศไทย มุ่งผลักดันนโยบาย Digital Economy เพื่ออำนวยความสะดวก ลดภาระขั้นตอนแก่ภาคเอกชน และรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน อีกทั้ง ยังให้ความสำคัญกับปรับปรุงข้อกฎหมายเกี่ยวกับหลักประกันทางธุรกิจ และท้ายที่สุด รัฐบาลเดินหน้าขยายความร่วมมือกับเพื่อนบ้านเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน


กลุ่มงานเลขานุการ ก.พ.ร. และการประชาสัมพันธ์ / จัดทำ