กรมที่ดินมุ่งมั่นพัฒนางานบริการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความโปร่งใสต่อการให้บริการประชาชน

แชร์หน้านี้


         เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. นางสาวนิชา สาทรกิจ ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล พร้อมด้วย นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และนายพนา รัตนบรรณางกูร ผู้อำนวยการ CAC และคณะ ได้เข้าพบ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีที่ดิน เพื่อหารือเกี่ยวกับการพัฒนางานบริการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความโปร่งใสต่อการให้บริการประชาชน โดยมี นายวราพงษ์ เกียรตินิยมรุ่ง ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมสำรวจ และคณะ เข้าร่วมหารือด้วย

         อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า ขอขอบคุณที่ภาคเอกชนให้ความสนใจกับการบริหารงานและการให้บริการประชาชนของกรมที่ดิน ซึ่งที่ผ่านมาได้พัฒนาการบริหารงานและการให้บริการประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังที่จะปรับเปลี่ยนมุมมองของประชาชนที่เห็นว่าการบริการของกรมมีความยุ่งยากทางกฎหมาย และต้องใช้ดุลยพินิจในการวินิจฉัยตามข้อกฎหมายเป็นจำนวนมาก เป็นการบริการด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว โปร่งใส และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือสนับสนุน ซึ่งมีแนวทางการบริหาร 5 เรื่องหลัก ได้แก่ (1) การบริหารเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่มีแอปพลิเคชันเป็นเครื่องมือสนับสนุนทั้ง Smart Lands ที่รวมงานบริการของกรมที่ดินเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูล ที่ตั้งสำนักงาน ขั้นตอนการดำเนินงาน การตรวจสอบราคาประเมิน และ e-QLands ที่สามารถเข้าไปจองคิวรังวัดและจองคิวจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (2) ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องที่ดิน ที่มีสารานุกรมที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ให้ประชาชนเข้าไปสืบค้นและศึกษารายละเอียดการทำธุรกรรมต่าง ๆ (3) ให้ประชาชนร่วมตรวจสอบเชิงคุณภาพ ที่มีระบบรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ผ่านระบบอัตโนมัติ และมี Facebook ของอธิบดีที่ประชาชนสามารถร่วมตรวจสอบการปฏิบัติงานของกรมที่ดินได้ และจะได้รับการตอบกลับจากกรมด้วยความรวดเร็ว (4) การพัฒนาคุณภาพการทำงานตามมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ที่มีนโยบายเลื่อนเงินเดือนให้เป็นกรณีพิเศษสำหรับเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา ที่ได้รับรางวัล GECC และ (5) เน้นย้ำระยะเวลาการปฏิบัติงานเพื่อให้เป็นไปตามคู่มือสำหรับประชาชน ทั้งนี้ การปฏิบัติงานต่าง ๆ จะให้ความสำคัญกับมิติความคุ้มค่าของภาคเอกชนและประชาชนนอกจากมิติความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐตามที่กฎหมายกำหนด

         รองเลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า กรมที่ดินเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ผู้บริหารให้ความสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาและปรับปรุงการบริหารงานและการให้บริการประชาชน โดยเฉพาะการสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าการให้บริการจะต้องมีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส และมีมาตรฐานในการให้บริการ ซึ่งตัวอย่างการดำเนินงานที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด คือ การปฏิบัติงานของกรมที่ช่วยยกระดับอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย ในด้านการจดทะเบียนทรัพย์สิน รวมทั้งการสมัครขอรับการรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่มีสำนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา สมัครของรับการรับรองมาตรฐานฯ จำนวน 134 หน่วย จากจำนวนสำนักงานที่ดินทั้งหมด 461 หน่วย จึงทำให้เห็นว่ากรมที่ดินมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการปฏิบัติงานในทุกมิติให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล และมาตรฐานภายในประเทศที่ได้รับการยอมรับ

         เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และผู้อำนวยการ CAC กล่าวชื่นชมการกำหนดนโยบายของอธิบดีกรมที่ดิน และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยสร้างความโปร่งใสและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน รวมทั้งมีแนวคิดการพัฒนางานของกรมที่ดิน ปี 2565 ที่ชัดเจน และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน เช่น การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมแบบออนไลน์ต่างสำนักงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ได้เสนอให้มีคณะทำงานระหว่างภาคเอกชนและกรมที่ดินเพื่อสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์การให้บริการงานของกรมที่ดิน ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินไม่ขัดข้องกับการจัดตั้งคณะทำงานดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้กรมที่ดินมีเครือข่ายในการสร้างความรู้ความเข้าใจและร่วมให้ความคิดเห็นต่อการพัฒนางานของกรมที่ดินอย่างต่อเนื่องต่อไป