การประชุมหารือแนวทางการดำเนินการยกระดับการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจตามข้อเสนอ Ten for Thailand

แชร์หน้านี้


         สำนักงาน ก.พ.ร. นำโดย นายณัฏฐา พาชัยยุทธ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการ ได้จัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อรับฟังความคิดเห็นและหารือแนวทางการดำเนินการยกระดับการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ในแต่ละประเด็นตามข้อเสนอ Ten for Thailand ร่วมกับผู้แทนจากหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย ในระหว่างเดือนมกราคม - เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังนี้

         1. เรื่องการปรับปรุงกระบวนการขอใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ประชุมร่วมกับสภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 สาระสำคัญมีดังนี้

             - จัดทำและเผยแพร่เกณฑ์การพิจารณาที่ชัดเจน กิจการประเภทใดที่เข้าเกณฑ์การขอใบอนุญาตฯ เพื่อเป็นแนวทางให้นักลงทุนต่างชาติในการขอใบอนุญาตฯ และสร้างความโปร่งใสในการพิจารณาของเจ้าหน้าที่รัฐ
             - ยกเว้นหรือลดระยะเวลาการดำเนินการขอใบอนุญาตฯ สำหรับบางกรณี เช่น ผู้ที่เคยได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มาแล้ว ผู้ที่เคยได้รับใบอนุญาตฯ แล้วและต้องการจะขอใบอนุญาตฯ ใหม่ซึ่งมีลักษณะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับใบเดิม เป็นต้น
             - ปรับปรุงขั้นตอนการขอใบอนุญาตฯ ให้เร็วขึ้น โดยจัดทำคู่มือแนวทางการจัดทำเอกสารประกอบการยื่นให้ชัดเจน วิธีการประมาณการรายได้และรายจ่ายของบริษัท อนุญาตให้ยื่นเอกสารเป็นภาษาอังกฤษได้ และเพิ่มจำนวนคำขอที่จะพิจารณาในแต่ละรอบให้มากขึ้น

         2. เรื่องการขยายสิทธิการขอรับการส่งเสริมการลงทุน ประชุมร่วมกับหอการค้าออสเตรเลีย-ไทย เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 สาระสำคัญมีดังนี้

             - ขยายความครอบคลุมของการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล และศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC)
             - เพิ่มความชัดเจนของหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับการส่งเสริมการลงทุน โดยจัดทำและเผยแพร่คู่มือเพื่อชี้แจงให้นักลงทุนต่างชาติเข้าใจว่ากิจการใดที่เข้าเกณฑ์การขอรับการส่งเสริมการลงทุน
             - ควรมีช่องทางในการเสนอกิจกรรมทางธุรกิจที่ไม่อยู่ในบัญชีประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุน เนื่องจากปัจจุบันมีประเภทธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากซึ่งอาจอยู่นอกเหนือจากเกณฑ์ที่ BOI กำหนดไว้

         3. เรื่องการปรับปรุงการค้าผ่านแดนให้เป็นดิจิทัล ประชุมร่วมกับหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 สาระสำคัญมีดังนี้

             - ปรับลดขั้นตอนการค้าผ่านแดนและพิธีการศุลกากรให้สะดวกรวดเร็วขึ้นและเป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ แทนการยื่นเอกสารในรูปแบบกระดาษ
             - ปรับปรุงระบบ NSW ให้สอดคล้องกับ FTA เกี่ยวกับสิทธิทางภาษีศุลกากร
             - เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมสรรพากร เพื่อลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน
             - ส่งเสริมการจัดทำ FTA ร่วมกับประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน

         4. เรื่องการเข้าถึงและการพัฒนาแรงงานฝีมือ ประชุมร่วมกับหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 สาระสำคัญมีดังนี้

             - ขยายสายงานเป้าหมายใน LTR visa เพื่อดึงดูดกลุ่มแรงงานทักษะสูงต่างชาติ ได้แก่ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สายงานสนับสนุน ท่องเที่ยวและบริการ อุตสาหกรรมการผลิต สาธารณสุข การเงินและการลงทุน ไอที
             - ปรับปรุงกระบวนการขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงานให้ง่ายขึ้นและเป็นดิจิทัล ควรเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเนื่องจากใช้เอกสารประกอบการยื่นที่คล้ายคลึงกันอยู่แล้ว
             - ปรับปรุงระยะเวลาการรายงานตัว 90 วัน และสัดส่วนการจ้างแรงงานไทยต่อแรงงานต่างชาติ 4:1 สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่มี LTR visa

         ในการดำเนินการขั้นต่อไป สำนักงาน ก.พ.ร. จะนำข้อเสนอแนะที่ได้จากหอการค้าต่างประเทศไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งหาแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อเสนอรองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) ต่อไป